เมนู

นิพพานสุภาวชานนปัญหา ที่ 10


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้จำเริญด้วยปรีชาญาณ คนทั้งหลายที่ยังไม่ได้พระนิพพาน รู้หรือว่าพระ
นิพพานเป็นสุข
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร คนที่มีตัณหา
อุปาทานนี้ถึงยังไม่ได้พระนิพพานก็เอาเถิด ที่มีปรีชาพระเสริฐก็รู้ว่าพระนิพพานนี้เป็นเอกันต-
บรมสุขมาทุกข์มิได้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตรัสตรัสซักไซ้ว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา
ญาณ คนทั้งหลายที่ยังไม่ได้พระนิพพานนี้จะรู้ว่าพระนิพพานเป็นสุขอย่างไร
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
คนทั้งหลายที่เกิดมาทีเท้าและมือเป็นปรกติ ไม่ต้องตัดตีนสินมือ รู้หรือไม่ว่าคนที่ต้องตัดตีนสิน
มือนี้เป็นทุกข์ ขอถวายพระ
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรมีพระราชโองการตรัสว่า คนทั้งหลายที่ยังไม่ต้องตัด
หัตถบาทา ก็รู้ว่าคนที่ต้องตัดหัตถบาทานี้เป็นทุกข์เจ็บปวดซิ น่ะพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงซักถามว่า เหตุไฉนเล่าจึงรู้ น่ะบพิตรพระราชสมภาร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการแก้ว่า คนทั้งหลายที่มีหัตถบาทา
เป็นปรกติอยู่นั้น เห็นคนเป็นโทษที่สมเด็จพระบรมกษัตริย์ทรงพระโกรธลงพระราชอาญา ให้
ตัดหัตถบาทาเสียนั้น ปริเทวนฺตานํ ร้องไห้ร่ำไรครางครวญไป คนทั้งหลายได้ยินได้เห็น เขาจึง
รู้ว่าตัดหัตถบาทานี้เป็นทุกข์อย่างนี้ นี่แหละพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนถวายพระพรว่า ฉันใดเล่า ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้เป็น
มหิศราธิบดี คนทั้งหลายที่เป็นโลกีย์ยังไม่ได้พระนิพพาน ครั้นทัศนาการเห็นที่ท่านได้พระ
นิพพานได้ฟังว่าพระนิพพานที่ท่านได้นั้นเป็นสุข ดูท่านก็หาทุกข์มิได้ ก็เข้าใจว่าเป็นสุขแสนสบาย
มีครุวนาดุจคนทั้งหลายอันเห็นคนที่ต้องตัดหัตถบาทา ปริเทวนาการร้องไห้ ร้องครางไป ได้ยิน
กับหู จึงรู้ว่าคนที่ต้องตัดหัตถบาทานี้เป็นทุกข์เหลือที่จะเวทนา ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรได้ทรงฟังก็ทรงพระโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ พระผู้เป็น
เจ้านี้ช่างอุปมาสมควรนักหนาในกาลบัดนี้
นิพพานสุภาวชานนปัญหา คำรบ 10 จบเท่านี้
จบอจุตถวรรค

ปัญจมวรรค


พุทธอัตถินัตถิภาวปัญหา ที่ 1


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการถามอรรถปัญหาในปัญจมวรรคนี้ว่า
ภนฺเต นาคเวน ข้าแต่พระนาคเสนผู้จำเริญด้วยปัญญาปรีชา พุทฺโธ อันว่าองค์สมเด็จพระ
พุทธเจ้านี้ พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นหรือประการใด
พระนาคเสนถวายพระพรแก้ไขว่า สมเด็จพระพุทธองค์นิพพานล่วงไปนานแล้ว อาตมา
เกิดไม่ทัน จะได้เป็นเจ้าได้เห็นหรือประการใด
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรมีสุนทรพจนารถราชโองการตรัสถามว่า พระผู้เป็น
เจ้าสิไม่เห็นพระพุทธองค์ ว่าพระมหากรุณานิพพานไปช้านาน ก็พระอาจารย์ของพระผู้เป็นเจ้า
ได้เห็นหรือไม่ เป็นประการใดเล่า
พระนาคเสนตอบว่า ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระอาจารย์ของอาต-
มานี้เล่า ก็มิได้ทัศนาการเห็นพระองค์ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรมีสุนทรพจนารถราชโองการตรัสว่า ถ้ากระนั้น
สมเด็จพระพุทธเจ้าก็ไม่มีแหละซิ พระผู้เป็นเจ้า ถ้าว่าสมเด็จพระพุทธเจ้ามีจริง พระผู้เป็นเจ้าก็
จะเห็นถึงพระผู้เป็นเจ้าไม่เห็น อาจารย์ของพระผู้เป็นเจ้าก็จะเห็น ถ้ากระนั้นก็ว่าเปล่า ๆ จะว่า
สมเด็จพระพุทธเจ้ามีอย่างไร
พระนาคเสนได้ฟังพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสฉะนี้ จึงมีเถรวาจาถามบ้างว่า มหาราช
ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร บพิตรได้ทัศนาการทอดพระเนตรเห็นโอหานที คือสะดือ
ทะเล ที่กลางทะเลบ้างหรือว่าหามิได้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า โยมไม่เคยเห็นน่ะ พระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงซักถามอีกเล่าว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารเจ้า สะดือ
ทะเลนั้นเล่าพระราชสมภารเจ้าสิไม่เคยทอดพระเนตรเห็น ก็สมเด็จพระปิตุเรศของมหาบพิตรเล่า
ได้เห็นหรือไม่เป็นประการใด
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า สมเด็จพระปิตุเรศของโยมก็ไม่ได้ทอดพระเนตร
น่ะพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรอีกเล่าว่า มหาราชา ดูรานะบพิตรพระราชสมภารเจ้า ถ้า
กระนั้นสะดือทะเลก็ไม่มีนั่นแหละสิ บพิตร